บทแรกของการเจาะลึกระบบกลไกนาฬิกาที่ทำได้มากกว่าการบอกเวลา
ไม่ว่าจะอย่างไรช่วงหนึ่งของทุกคนที่ชื่นชอบนาฬิกาจะต้องการบางสิ่งที่มากกว่าจากนาฬิกาที่คุณครอบครองอยู่ อาจเป็นเพียงสิ่งเล็กน้อยหรือมากเกินกว่าจะเป็นไปได้ แต่ไม่ว่าความปรารถนาคืออะไร ก่อนอื่นขอแสดงความยินดี: ที่ตอนนี้คุณกำลังเข้าสู่การสำรวจอีกด้านหนึ่งของโลกแห่งเรือนเวลาอย่างเป็นทางการ — เตรียมทำความรู้จักความซับซ้อนของระบบกลไกขั้นสูง
ในโลกของนักสะสมนาฬิกาคำว่า ‘Complication’ หมายถึงนาฬิกาที่มีการเพิ่มฟังก์ชั่นนอกเหนือจากการแสดงเวลา สำหรับนาฬิกากลุ่มนี้จะมีระดับความซับซ้อนของการทำงานตั้งแต่ทั่วไปจนถึงระดับสูงสุด โดยชื่อเรียกของแต่ละรุ่นจะแสดงถึงระดับความซับซ้อนของระบบกลไก รวมทั้งฟังก์ชั่นการใช้งาน และโครงสร้างตัวเรือน
สำหรับบทความนี้เราจะทำความรู้จักระบบกลไก Complication ของนาฬิกาที่มีความซับซ้อนยังไม่สูงมากนัก แต่จะช่วยเพิ่มประโยชน์ของการใช้งานด้วยการแสดงข้อมูลที่เรียบง่ายผ่านหน้าปัดนาฬิกา รวมถึงเข็มวินาที, กลไกปฏิทินแบบพื้นฐานที่มีการแสดงวันที่ และช่วงเวลาข้างขึ้นข้างแรม (Moonphase) รวมถึงการแสดงพลังงานสำรองที่เหลืออยู่
แม้ว่าจะมีความซับซ้อนทางเทคนิคน้อยกว่าระบบกลไก Complication ในเรือนเวลาชั้นสูง แต่กลไก Complication ทุกรูปแบบถูกสร้างขึ้นจากงานฝีมือที่พิถีพิถัน, ความล้ำสมัยของกลไก, ประสิทธิภาพที่ดีที่สุด และการตกแต่งที่ประณีต ทั้งหมดนี้ถูกนำเสนอผ่านนาฬิกาที่โดดเด่นต่อไปนี้
Date – การแสดงวันที่
Blancpain Fifty Fathoms 70th Anniversary Act 1
ย้อนกลับไปสู่ปี 1953 Blancpain Fifty Fathoms เป็นเหมือนผู้กำหนดต้นแบบของนาฬิกาดำน้ำยุคใหม่ ด้วยประสิทธิภาพทางเทคนิค — ทั้งระดับการกันน้ำขั้นสูงสุด, ความแม่นยำในการอ่านค่า, ระดับการป้องกันสนามแม่เหล็ก, ความแข็งแกร่ง และทนทานต่อแรงกระแทกที่ไม่มีนาฬิกาเรือนใดเทียบได้ — เป็นการยกระดับมาตรฐานอุปกรณ์แสดงเวลาใต้น้ำของยุคนั้นที่ยังคงได้รับการยกย่องจนถึงปัจจุบัน
เพื่อฉลองครบรอบ 70 ปีของ Fifty Fathoms ทาง Blancpain มีการนำเสนอ 3 รุ่นพิเศษที่จัดทำแบบเอ็กซ์คลูซีฟ โดยหนึ่งในนั้นคือ Fifty Fathoms 70th Anniversary Act 1 ผลิตจำนวนจำกัด 70 เรือน เพื่อแสดงความเคารพนาฬิกาต้นแบบจะใช้ตัวเรือนโลหะขนาด 42.3 มม. และองค์ประกอบที่มีความคล้ายกับโมเดลปี 1953 ช่องหน้าต่างแสดงวันที่อยู่ในตำแหน่ง ‘4:30’ เป็นการเพิ่มฟังก์ชั่นปฏิทินในนาฬิกาดำน้ำประสิทธิภาพสูงที่ขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติ Calibre 1315 พร้อมกำลังสำรอง 120 ชั่วโมง
Day-Date – การแสดงวันในสัปดาห์-วันที่
Tudor Royal
Day-Date คือฟังก์ชั่นการแสดงวันที่ และวันในสัปดาห์ ซึ่งแฟนของนาฬิกา Tudor ผู้หลงใหลบางสิ่งในความสง่างามจะให้ความสนใจคอลเลคชั่น Royal เป็นพิเศษ ด้วยการนำเสนอรูปแบบของความเป็นทางการที่พร้อมสวมใส่สำหรับการออกงานกลางคืน รูปลักษณ์ที่เพรียวบางถูกเพิ่มความโดดเด่นด้วยขอบตัวเรือนแบบสลักลายร่อง, ตัวเลขชั่วโมงแบบโรมัน และสายนาฬิกาที่ประสานเข้ากับตัวเรือนด้วยข้อต่อที่มีความยืดหยุ่น จนทำให้ Tudor Royal แสดงความงดงามทั้งในวันทำงานหรือช่วงเวลาพักผ่อนในวันหยุดสุดสัปดาห์
ในปีนี้คอลเลคชั่น Royal ต้อนรับโมเดลใหม่ที่มีหน้าปัดโทนสีส้ม Salmon และสีน้ำตาล Chocolate หนึ่งในรุ่นที่ได้รับเสียงชื่นชม M28603-0007 จะมีช่องหน้าต่างแสดงวันที่ และวันในสัปดาห์ ด้วยแรงบันดาลใจจาก Rolex Day-Date ที่เปิดตัวเมื่อปี 1956 การสร้างสรรค์ของ Tudor จะอยู่ในตัวเรือนโลหะ และทองคำขนาด 41 มม. ผสมผสานฟังก์ชั่นการใช้งานจากรุ่นต้นแบบเข้ากับความงดงามที่ร่วมสมัย
Moonphase – การแสดงข้างขึ้นข้างแรม
Chopard Imperiale Moonphase
กลไก Moonphase คือกลไกที่แสดงการโคจรของดวงจันทร์ อาจจะแสดงแยกอยู่เพียงลำพังหรือเคียงข้างช่องหน้าต่างแสดงวันที่ ไม่ว่าจะด้วยวิธีการใดก็ตาม ความซับซ้อนของระบบกลไกดาราศาสตร์มีพลังที่จะขยายขอบเขตของกาลเวลา และจินตนาการที่งดงามของอวกาศ
ในการสร้างสรรค์ Imperiale Moonphase เป็นการก้าวไปอีกขั้นของ Chopard ด้วยการนำระบบกลไก Complication วางบนฐานกลไกหลัก โดยตัวเรือนทองคำขาวขนาด 36 มม. ประดับเพชรที่มีน้ำหนักรวมเกือบ 3 กะรัต สร้างความงดงามให้หน้าปัดที่ใช้วัสดุ Aventurine เปล่งประกายเหมือนท้องฟ้ายามค่ำคืน ท่ามกลางความหรูหราที่ระยิบระยับ และการสลักลวดลายของกลุ่มดาว จะมีหน้าต่างแสดงช่วงเวลาข้างขึ้นข้างแรมในตำแหน่ง 12 นาฬิกา ที่ไม่เพียงระบุตำแหน่งการโคจรของดวงจันทร์เท่านั้น แต่มีความเที่ยงตรงที่น่าเหลือเชื่อด้วยการปรับตั้งเวลาเพียงครั้งเดียวในทุก 122 ปี
Power Reserve Display – การแสดงพลังงานสำรอง
Glashutte Original PanoReserve
Glashütte Original มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักจากการเป็นนาฬิกาที่มีความน่าเชื่อถือสูงในด้านประสิทธิภาพที่ไม่มีแบรนด์ใดเทียบได้ รวมถึงความสง่างามที่น่าหลงใหล โดย PanoReserve นำเสนอความสมบูรณ์แบบทุกด้าน ด้วยดีไซน์หน้าปัดที่เป็นเอกลักษณ์ของ Glashütte Original แสดงให้เห็นคุณภาพระดับสูงที่งดงามของนาฬิกาคอลเลคชั่นนี้
ตัวเรือนโลหะขนาด 40 มม. บนหน้าปัดทางด้านขวาจะมีหน้าปัดย่อยพร้อมเข็มแสดงค่าที่เป็นรูปทรงไม่สมมาตร และการวางซ้อนกันของหน้าปัดย่อยอื่นๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ของคอลเลคชั่นนี้ อีกหนึ่งการออกแบบที่มีชื่อเสียงคือช่องหน้าต่างขนาดใหญ่แสดงวันที่ในตำแหน่ง ‘4:30’ เพื่อสร้างความสมดุลกับช่องหน้าต่างแสดงพลังงานสำรองรูปทรงใบพัดด้านบน โดยระบบกลไกไขลาน Calibre 65-01 มีพลังงานสำรองสูงสุด 45 ชั่วโมงที่คุณสามารถอ่านค่าได้ทันทีที่ต้องการ
Omega De Ville Tresor Master Chronometer Power Reserve
อย่าหลงกลกับความงดงามที่ไม่ซับซ้อนของ Omega De Ville Tresor Master Chronometer Power Reserve หากมองไปยังตัวเรือนที่เรียบง่ายขนาด 40 มม. ใช้วัสดุทองคำ Sedna (อัลลอยด์โรสโกลด์ 18K ที่เป็นเอกสิทธิ์ของ Omega) ความสง่างามของหน้าปัดทรงโดมสีน้ำเงินเพิ่มความโดดเด่นด้วยชุดเข็มทรงเส้นตรงยาวเรียวแบบ Baton เช่นเดียวกับหลักชั่วโมง พร้อม 2 หน้าปัดย่อยบริเวณด้านบนแสดงพลังงานสำรอง และด้านล่างแสดงวินาที เพิ่มความสมดุล และเรียบง่ายในการออกแบบ
นาฬิกาสำหรับสุภาพบุรุษเรือนนี้เพิ่มความน่าสนใจด้วยกลไกชั้นยอด โดยได้รับรองมาตรฐานความเที่ยงตรงระดับ Master Chronometer ด้วยการยกระดับประสิทธิภาพขั้นสูง และความแม่นยำที่มีการปรับตั้งจนสามารถรับรองความคลาดเคลื่อนที่ลดลงเหลือเพียงแค่ 0/+5 วินาทีต่อวัน การต้านทานแรงสนามแม่เหล็กสูงสุด 15,000 เกาส์ และพลังงานสำรอง 72 ชั่วโมง ในทางเทคนิคอาจเป็นระบบกลไก Complication ที่มีความซับซ้อนไม่สูงมากนัก แต่คุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมใน Omega De Ville Tresor Master Chronometer Power Reserve ไม่ได้ด้อยไปกว่าเรือนเวลารุ่นอื่นๆ
ค้นหาแบรนด์นาฬิกา และคอลเลคชั่นพิเศษเพิ่มเติม ที่ Cortina Watch Boutiques และผ่านช่องทางออนไลน์หรือติดต่อตัวแทนฝ่ายขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม