The 24 Hours of Le Mans
เผยแพร่เมื่อ มิถุนายน 9, 2024
ประวัติศาสตร์อันยาวนานและน่าภาคภูมิใจของการแข่งรถครั้งยิ่งใหญ่
รายการ 24 Hours of Le Mans มีจุดเริ่มต้นในปี 1923 และนับเป็นรายการแข่งรถที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงที่สุดรายการหนึ่งของโลก การทดสอบความน่าเชื่อถือของเครื่องยนต์อันดุเดือด รวมถึงการทดสอบความแข็งแกร่งทางร่างกายและจิตใจของนักแข่งที่เข้มข้นไม่แพ้กัน ทำให้ Le Mans เป็นที่สนใจของผู้มีชื่อเสียงในวงการกีฬาแข่งรถ การแข่งขันจัดขึ้นบนเส้นทางกว่า 13.6 กิโลเมตร (8.4 ไมล์) ที่สนามแข่ง Circuit de la Sarthe ทางตะวันตกเฉียงเหนือของฝรั่งเศส พร้อมด้วยรถแข่ง 62 คัน และนักแข่งสามคนในแต่ละทีมต้องขับเคี่ยวกันอย่างจริงจัง โดยแบ่งออกเป็นรถแข่ง Prototype สองคัน และรถในคลาส GT หนึ่งคัน ทีมที่ชนะคือทีมที่ทำผลงานได้ดีที่สุดใน 24 ชั่วโมง ซึ่งมีระยะทางกว่า 5,300 กิโลเมตร (3,293 ไมล์) โดย Rolex ได้ดำรงฐานะเป็นเรือนเวลาอย่างเป็นทางการของการแข่งขันนับตั้งแต่ปี 2001
พัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่องตลอดหลายทศวรรษ
นับตั้งแต่เปิดตัวขึ้น การแข่งขันแห่งประวัติศาตร์นี้ยังเป็นสนามทดสอบชั้นเลิศในการสร้างสรรค์เทคโนโลยีให้กับกีฬาแข่งรถจำนวนมาก ทั้งการทดลองใช้พื้นผิวถนนแบบใหม่ในปี 1922 (และยังคงใช้งานได้ในปัจจุบัน) การพัฒนาด้านความปลอดภัย การพัฒนาเครื่องยนต์ และอากาศพลศาสตร์ และนับตั้งแต่ปี 2022 เป็นต้นมา ได้มีข้อกำหนดสำหรับรถยนต์ทุกคันที่ต้องใช้เชื้อเพลิงชีวภาพหมุนเวียน 100 เปอร์เซ็นต์ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาที่สำคัญของหนึ่งศตวรรษแห่งความก้าวหน้าที่ได้รับการสนับสนุนจากการแข่งรถเอ็นดูรานซ์ระดับตำนานนี้ สำหรับผู้ผลิตยานยนต์รายใหม่ที่เข้าร่วมแข่งขันระดับท็อปคลาสในปี 2024 ได้แก่ Alpine, BMW และ Lamborghini อันเป็นการตอกย้ำถึงความสำคัญของการแข่งขันต่ออุตสาหกรรมยานยนต์
Tom Kristensen: ‘Mr Le Mans’
Tom Kristensen ได้รับฉายาที่เหมาะกับเขาอย่างแท้จริง เขาคือนักแข่งที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยสามารถคว้าชัยในการแข่งขันได้มากถึง 9 ครั้งหลังจากที่เริ่มปรากฎตัวเข้าร่วมในการแข่งขันครั้งแรกเมื่อปี 1997 นักแข่งรถชาวเดนมาร์กผู้นี้เป็นแชมป์ FIA World Endurance ในปี 2013 และดำรงฐานะเป็น Rolex Testimonee นับตั้งแต่ปี 2010 “ชัยชนะจาก Le Mans จะอยู่ติดตัวคุณไปตลอดกาล ผมรู้สึกเป็นเกียรติและภูมิใจที่ได้สะท้อนถึงมรดกของการแข่งขันและการมีส่วนร่วมในกีฬาแข่งรถของ Rolex เมื่อสองสิ่งนี้มาบรรจบกัน มันคือส่วนผสมที่ลงตัวอย่างมาก ทั้งคู่ต่างมุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศ โดยเปี่ยมไปด้วยความเพียรพยายาม นวัตกรรมทางเทคนิค และความมุมานะที่มนุษย์พึงกระทำได้”
Cosmograph Daytona: รางวัลของมือหนึ่ง
ผู้ชนะระดับสูงสุดในการแข่งขัน 24 Hours of Le Mans จะได้รับ Oyster Perpetual Cosmograph Daytona ที่มีการสลักข้อความสำหรับโอกาสอันพิเศษนี้ Cosmograph Daytona คือผลงานจากความเชี่ยวชาญของ Rolex และนาฬิการะดับตำนานที่เปี่ยมไปด้วยเอกลักษณ์นี้ได้กลายมาเป็นเรือนเวลาสุดไอคอนิก โดยมาพร้อมกับกลไกการทำงานที่ผ่านการออกแบบและผลิตโดย Rolex ทั้งหมด ทำให้เรือนเวลานี้มีความโดดเด่นในด้านความเที่ยงตรงระดับโครโนเมตริกและมีความน่าเชื่อถืออย่างไม่มีวันแปรเปลี่ยน